23 เมษายน 2567 โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้รับการอนุมัติหลักการจากที่ประชุม คณะรัฐมนตรี แล้วค่ะ แต่เสียงค้านในเรื่องการใช้งบประมาณ เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
งบประมาณที่จะใช้โครงการนี้วางไว้ที่ 5 แสนล้านบาท คือ
- เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวนประมาณ 152,700 ล้านบาท
- การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวนประมาณ 172,300 ล้านบาท ก้อนนี้แหละจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือว่า ธ.ก.ส.
- การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนประมาณ 175,000 ล้านบาท
แต่… เรื่องนี้มีเสียงค้าน โดยเฉพาะ ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งเอกสาร 5 หน้า ถึง คณะรัฐบาลเศรษฐา อย่าทำเลยโครงการนี้ เพราะ มีโอกาสถูกหั่นเครดิตประเทศ เพราะถ้าเกิดทำแล้วก่อภาระทางการคลังระยะยาว และไม่สามารถรักษาเสถียรภาพหนี้ได้ อาจโดนสถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลก อย่าง มูดีส์ หั่นเครดิตความน่าเชื่อถือประเทศ ซึ่งถ้าโดนหั่นเครดิตประเทศจริงๆ จะทำให้ ต้นทุนการกู้ยืมภาครัฐและภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาพรวม
และการใช้วงเงินงบประมาณมูลค่าสูงจะทำให้งบประมาณที่รัฐบาลจะทำโครงการอื่นๆ ลดลง เช่น งบกลางฉุกเฉิน
ส่วนก้อนที่มาจาก ธ.ก.สคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. แบงก์ชาติบอกว่า รัฐบาลโดยยังมีภาระหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส. ถึงประมาณ 800,000 ล้านบาท ถ้าเอามาอีกแสนเจ็ดหมื่นล้าน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและความเสี่ยงของธนาคาร กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน
จึงควรมีแนวทางชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ให้แก่ ธ.ก.ส. พร้อมทั้ง รับฟังความเห็นของคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ก่อนด้วย รวมถึงส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ
พอพูดถึงเรื่องความเชื่อมั่นผู้ฝากเงิน ธ.ก.ส. หนึ่งในนั้นคือ สหภาพ ธ.ก.ส.ก็ออกมาสอบถามรัฐบาล เช่น สภาพคล่องพอหรือเปล่า มีแผนตั้งงบประมาณคืนเงินอย่างไรคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ยังไม่จบค่ะ ยังมีอีกหนึ่งความเห็นจาก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และประธานกรรมการธนาคาร ธ.ก.ส. ด้วย กางกฎหมาย พ.ร.บ.ธ.ก.ส. และส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเลขากฤษฎีกา โดยมองว่า เจตนารมณ์ของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ไม่ใช่เพื่อการเกษตรหรือเพื่อเฉพาะเกษตรกร แต่เน้นไปที่ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน” เน้นการอุปโภคบริโภคโดยซื้อของใช้ประจำวันไม่ใช่สำหรับใช้ในการเพิ่มผลผลิตการเกษตร หรือรายได้การเกษตร หรือส่งเสริมอาชีพ หรือเพื่อการประกอบอาชีพ
คุณธีรชัย หยิบยก พ.ร.บ.ธ.ก.ส. มาตรา 9 จุดประสงค์ ของธนาคาร ธ.ก.ส. ที่เน้นไปที่การ ให้ความช่วยหลือเกษตรกร เช่น สนับสนุนต้นทุนปัจจัยการผลิต ชดเชยความเสียหายของผลการผลิตเกษตรกร แต่โครงการนี้ อาจไม่ใช่
อีกเสียงค้านค่ะ มองว่าโครงการสุดท้ายอาจไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ ก็คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ มาตรการที่จะกู้ยืมเงินจาก ธกส. จะมีมติเมื่อไหร่ก็ยังทราบแน่ชัด เพียงแถลงความคืบหน้า เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกถึงความคืบหน้า
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตอบทุกประเด็นที่ค้านออกมา ยืนยันว่า ทาง ธ.ก.ส.มีความมั่นคง และอย่าลืมว่า ธ.ก.ส.รัฐบาลถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ และเราก็คือรัฐบาลมีแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับ ธ.ก.ส.